ENT, Aesthetics, Plastic surgery

การผ่าตัดต่อมทอนซิล
การผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออกไปหรือที่เรียกกันในภาษาทางการแพทย์ว่า Tonsillectomy เป็นการผ่าตัดที่ทำกันมานานก่อนคริสตกาลและมีการบันทึกกันเป็นหลักฐานโดยแพทย์ชาวฮินดู โดยการแพทย์ปัจจุบันนิยมใช้การผ่าตัดต่อมทอนซิลร่วมกับการดมยาสลบโดยเฉพาะในยุค 1955-1970 มีรายงานการผ่าตัดในอเมริกาเพื่อรักษาเด็กที่มีการอักเสบเรื้อรังของต่อมทอนซิล ต่อมทอนซิลมีขนาดโตมากๆ และอุดกั้นทางเดินหายใจสถิตินับล้านคนต่อปี แต่ก็ยังเป็นการผ่าตัดต่อมทอนซิลแบบดั้งเดิมอยู่ (Traditional Tonsillectomy)
สถิติการผ่าตัดต่อมทอนซิลประมาณ 400,000 รายต่อปีในประเทศสหรัฐอเมริกา พบข้อบ่งชี้สำคัญว่าหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยคงพบอาการแบบเดิมๆ คือมีการอักเสบเรื้อรังของต่อมทอนซิล ต่อมทอนซิลมีขนาดโตมากๆ และอุดกั้นทางเดินหายใจ และมีนิ่วในต่อมทอนซิล (Tonsil stones หรือ Tonsilloliths) ต่อมาการแพทย์ได้พัฒนานำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากขึ้น เช่น การใช้คลื่นวิทยุ(Radio Frequency) การใช้ Co2 Laser และจากความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ทำให้แพทย์สามารถพัฒนาการรักษาโรคของต่อมทอนซิลโดยไม่ต้องตัดต่อมทอนซิลออกทั้งหมดทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเสียอวัยวะต่อมทอนซิลออกไป
วิชาการการแพทย์สมัยใหม่ยังทราบอีกว่า ต่อมทอนซิลนั้นมี Stem cell อยู่เป็นจำนวนมาก
ที่มีศักยภาพสูงกว่า Stem cell จากไขกระดูกและนำมาใช้ได้ง่ายกว่า ซึ่งในอนาคต Stem cell นั้น
สามารถนำออกมาใช้ในการรักษาโรคได้หลายชนิด เช่น โรคหลอดเลือดตีบตันของสมองและหัวใจ
การรักษาโรคมะเร็งของต่อมน้ำเหลือง เป็นต้นยิ่งกว่านั้น Stem cell ของต่อมทอนซิลยังสามารถ
ซ่อมแซมเนื้อทอนซิลได้เองด้วย
ดังนั้นในปัจจุบันประเทศที่พัฒนาการทางการแพทย์ชั้นสูง เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ
และหลายประเทศในแถบยุโรป ตลอดจนอินเดียและบังกลาเทศได้พัฒนาการผ่าตัดต่อมทอนซิล
เป็นแบบทันสมัย (Modern Tonsillectomy) โดยใช้เครื่อง Co2 Laser ในการรักษาโรคของ
ต่อมทอนซิลโดยไม่ตัดอวัยวะของต่อมทอนซิลออกไปทั้งหมด คงเหลือเนื้อเยื้อต่อมทอนซิล
ที่ยังมีคุณภาพอยู่เพราะต่อมทอนซิลมีหน้าที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
(Immune system) เป็นด่านดักจับเชื้อโรค โรคของทางเดินหายใจซึ่งคงทำหน้าที่ตลอดชีวิต
แม้ว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับวัยเด็กก็ตาม
ในสหรัฐอเมริกามีการผ่าตัดทอนซิลด้วย Co2 Laser ในทุกรัฐ ด้วยเหตุผลและ
ประโยชน์ที่กล่าวข้างต้นทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ เลือกการรักษาด้วยวิธีนี้กันอย่างแพร่หลาย
ทั้งในอเมริกาและยุโรป ซึ่งในอนาคตสามารถกล่าวได้เลยว่า ประเทศไทยจะมีการผ่าตัด
ต่อมทอนซิลนี้มากขึ้น แต่การผ่าตัดต่อมทอนซิล ด้วย Co2 Laser นั้น ในอเมริกาได้กำหนด
ให้แพทย์หู คอ จมูก สามารถทำได้เมื่อศัลยแพทย์ผู้นั้นต้องมีประสบการณ์ในการผ่าตัดต่อมทอนซิลแบบดั้งเดิมมาเป็นจำนวนมากและศัลยแพทย์ผู้นั้นต้องมีความชำนาญในการผ่าตัดด้วยเครื่อง Co2 Laserทาง หู คอ จมูก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ของเอสธีค 99 ใช้เทคนิคการผ่าตัดทอนซิลด้วยเลเซอร์ Co2 Laser ในการผ่าตัดต่อมทอนซิล ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่ต้องตัดต่อมทอนซิลออกทั้งหมด ไม่ต้องเสียอวัยวะ โดยปกติของการตัดทอนซิลโดยทั่วไป หลังผ่าตัด นอกจากผู้ป่วยต้องสูญเสียอวัยวะทอนซิลแล้ว โครงสร้างลำคอจะไม่เหมือนเดิม แต่เราสามารถใช้นวัตกรรมผ่าตัดรักษาโรค และยังรักษาโครงสร้างลำคอยังเหมือนเดิม และต่อมทอนซิลยังคงอยู่เพื่อทำหน้าที่ต่อไปได้
ข้อดีของการใช้ Co2 Laser ในการผ่าตัดต่อมทอนซิล
-
สามารถทำได้โดยใช้ยาชาเฉพาะที่ (Topical and Local Anesthesia)
-
เสียเลือดจากการผ่าตัดน้อย 0 – 2 ซีซี ขณะที่การผ่าตัดแบบดั้งเดิม (Traditional Tonsillectomy) นั้นเสียเลือดประมาณ 50 – 150 ซีซี
-
ส่วนสภาวะเลือดออกหลังการผ่าตัดตามสถิติมีได้ 2 - 5 % ซึ่งก็อยู่ในระดับเดียวกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
-
ผู้ป่วยไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล สามารถทำได้อย่างปลอดภัยในห้องตรวจผู้ป่วย OPD และกลับบ้านได้หลังทำเสร็จ
-
หลังการผ่าตัดอาการปวดแผลน้อยมาก ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปทำงานได้ใน 1 -2 วันหลังการผ่าตัด เมื่อเทียบกับแบบดั้งเดิมที่ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาล 2 – 3 วัน มีอาการปวดแผลมากและการฟื้นตัวต้องใช้เวลาประมาณ 1 -2 สัปดาห์
-
ราคาค่าใช้จ่ายถูกกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิมประมาณ 50 %
-
การผ่าตัดใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 20 นาที เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 40–50 นาที


